Tuesday, January 25, 2011

Sony Ericsson Yendo

Sony Ericsson Yendo สมาร์ทโฟนหน้าจอสัมผัส ขนาดเล็กที่สุด ง่ายต่อการพกพา ให้คุณได้สนุก พร้อมทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ อาทิ ฟังเพลงจากเครื่องเล่นเพลงสุดฮิตอย่าง WALKMAN
 


Sony Ericsson Yendo สมาร์ทโฟนหน้าจอสัมผัส ขนาดเล็กที่สุด ง่ายต่อการพกพา ให้คุณได้สนุก พร้อมทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ อาทิ ฟังเพลงจากเครื่องเล่นเพลงสุดฮิตอย่าง WALKMAN อัพเดตโลกออนไลน์กับ Facebook, Twitter, Orkut หรือเลือกใช้งานกับเครื่องคิดเลขพื้นฐาน, นาฬิกาจับเวลา, กล้องถ่ายรูปความละเอียด 2 ล้านพิกเซล เป็นต้น นอกจากนี้ยังรองรับการ์ดหน่วยความจำ MicroSD ...
Look & Design
Sony Ericsson Yendo สมาร์ทโฟนหน้าจอสัมผัส รูปทรงแท่ง มาให้เลือกพร้อมกันถึง 10 สี คือ สีดำ, น้ำเงิน, เขียว, ส้ม, ชมพู, ม่วง, แดง, บรอนซ์เงิน, ขาว และเหลือง ตัวเครื่องวัดความสูงได้ 93.40 มิลลิเมตร กว้าง 51.79 มิลลิเมตร หนา 15.04 มิลลิเมตร และชั่งน้ำหนักรวมแบตเตอรี่ได้ 86 กรัม
ด้านบน ช่องเสียบชุดหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร และปุ่มปิด/เปิดเครื่อง (ปุ่มล็อคโทรศัพท์)
มุมซ้ายด้านบน มีช่องสำหรับสายคล้องโทรศัพท์
ด้านซ้าย ช่องเสียบอุปกรณ์ภายนอก microUSB
ด้านขวา ปุ่มปรับระดับเสียง
ด้านหน้า ลำโพงสนทนา, หน้าจอ TFT-LCD ความละเอียด 240 x 320 พิกเซล วัดความกว้างได้โดยประมาณ 6.4 เซนติเมตร, ปุ่มเมนูหลัก และไมค์เสียง
ด้านหลัง กล้องถ่ายรูปความละเอียด 2 ล้านพิกเซล และลำโพงเสียง ฝาหลังทำจากพลาสติกเนื้อด้าน ถอดฝาหลังออกด้วยการเลื่อนลง
ภายในพบกับช่องวางแบตเตอรี่ เหนือช่องวางแบตเตอรี่ มีช่องเสียบซิมการ์ด ด้านข้างขวาของตัวเครื่องมีช่องเสียบการ์ด MicroSD
อุปกรณ์ภายในกล่องบรรจุภัณฑ์
* โทรศัพท์ Sony Ericsson Yendo
* แบตเตอรี่มาตรฐาน 970 mAh
* อุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่ (แยกเป็น 2 ชิ้น)
* ชุดหูฟังขนาดมาตราฐาน 3.5 มิลลิเมตร
* คู่มือการใช้งาน
Menu Function
ใช้งานเมนูหลักโดยเลื่อนรูปสามเหลี่ยมบริเวณหน้าจอหลักขึ้น เมนูหลักแสดงผลรูปแบบตาราง โดยมีทั้งหมด 3 หน้า หน้าละ 9 เมนู รวมทั้งหมด 26 เมนู
PlayNow - แหล่งดาวน์โหลด เสียงเรียกเข้า, เกมส์ และแอพพลิเคชั่นเพิ่มเติม จาก Sony Ericsson
Calendar - แสดงผลรูปแบบของรายเดือน สามารถบันทึกหมายเหตุในแต่ละวันได้
Camera - การใช้งานกล้องถ่ายรูป
Album - แสดงภาพถ่ายจากกล้องถ่ายรูป และเมมโมรี่การ์ด
Add note - ฟังก์ชั่นจดบันทึก และแจ้งเตือนนัดหมาย
WALKMAN - เครื่องเล่นเพลง โดยเล่นเพลงทั้งหมดจากหน่วยความการ์ด และหน่วยความจำเครื่อง
Phonebook - สมุดรายชื่อ โดยแสดงทั้งจากซิมการ์ด และเครื่องโทรศัพท์
Phone - แผงปุ่มกดสำหรับการโทรออก, บันทึกหมายเลขโทรศัพท์ และ ดูบันทึกการสนทนาล่าสุด
Messaging - รับ - ส่งข้อความตัวอักษร, ข้อความรูปภาพ, ข้อความพร้อมไฟล์วิดีโอ และข้อความเสียง
FM radio - ฟังก์ชั่นวิทยุในระบบ FM
Browser - การใช้งานอินเตอร์เน็ต โดยมีรูปแบบแสดงผลเหมือน PC
Alarm - การใช้งานนาฬิกาปลุก พร้อมบันทึกข้อความ
Setting - แบ่งออกเป็น Most used setting (รายการตั้งค่าล่าสุด 3 รายการ) และ Setting ดังนี้
- Sounds and vibration - ตั้งค่าเสียงเรียกเข้า และการสั่นเตือน
- Appearance - การปรับหน้าจอความสว่าง
- Connectivity - ตั้งค่าการเชื่อมต่อ อาทิ บลูทูธ, เครือข่าย, อินเตอร์เน็ต เป็นต้น
- Application setting - ตั้งค่าแอพพลิเคชั่นอื่นๆ
- Contacts - ตั้งค่ารายชื่อ อาทิ คัดลอกรายชื่อ เป็นต้น
- Calls - ตั้งค่าการใช้ศูนย์ฝากข้อความเสียง, การโอนสาย, สายซ้อน เป็นต้น
- Language and writing - ตั้งค่าภาษา และการเขียน
- Message and calendar - ตั้งค่าข้อความ, อีเมล์ และปฏิทิน
- Browser - ตั้งค่าหน้าเพจอินเตอร์เน็ต
- General - ตั้งค่าวันที่, โหมดเครื่องบิน, ความปลอดภัย, เกี่ยวกับตัวเครื่อง และการรีเซ็ตตัวเครื่อง
Recorder - โปรแกรมบันทึกเสียง
Video - โปรแกรมเล่นรับชมไฟล์วิดีโอ
Email - การใช้งานอีเมล์
Stopwatch - ฟังก์ชั่นนาฬิกาจับเวลา สามารถจับเวลาโดยแบ่งเป็นรอบได้
Timer - ฟังก์ชั่นนาฬิกานับถอยหลัง
Calculator - การใช้งานเครื่องคิดเลขพื้นฐาน
Voicemail - บริการข้อความเสียง
TrackID - บริการค้นหาข้อมูลเพลงที่ต้องการทราบ นอกจากนี้สามารถดาวน์โหลด หรือรับชมวิดีโอผ่าน YouTube ได้.....
BB Revolution - เกมสนุกๆ จาก Sony Ericsson สามารถดาวน์โหลดเพิ่มเติมได้ที่ PlayNow
NightclubFever - เกมสนุกๆ จาก Sony Ericsson สามารถดาวน์โหลดเพิ่มเติมได้ที่ PlayNow
Facebook - เว็บไซต์เครือข่ายสังคมออนไลน์
Twitter - เว็บไซต์เครือข่ายสังคมออนไลน์
Orkut - เว็บไซต์เครือข่ายสังคมออนไลน์จาก google
 

HP เตรียมเปิดตัว 2 Tablet WebOS วันที่ 9 กุมภาพันธ์นี้

WebOS เป็นอีก 1 OS ชั้นดี ทาง HP เองกำลังจะปล่อยตัว Tablet ออกมา 2 ตัวให้ชื่นชมกันแต่จะมี 1 ตัวที่มาช่วงเดือนกันยายนโน่นเลย
 


HP เองจะจัดงานแถลงข่าวในวันที่ 9 กุมภาพันธ์นี้และจะเป็นการแถลงเรื่องของความคืบหน้าของ WebOS แต่อย่างที่ทราบกันไปแล้วตอนนี้ก็คือในส่วนของ Netbook และ Tablet ที่น่าจะมีเอาออกมาโชว์จัวกันในงาน แต่ก่อนถึงงาน HP ก็หลุดจนได้เพราะมีภาพของ Tablet โผล่มา 1 ตัวเรียกน้ำย่อยกันก่อน แต่ที่จริงแล้วมีข่าวว่า Tablet จะมี 2 ตัวคือ 9 นิ้วและ 7 นิ้วรูปที่หลุดออกมาเป็นแบบ 9 นิ้วมี Codename ว่า Topaz ส่วนตัว 7 นิ้วคือ Opal
จากภาพจะเห็นว่าด้านหน้าไม่มีปุ่มเลยแต่เห็นชัดว่ามีกล้องหน้าและช่อง MicroUSB และดุเหมือนว่าตัวเครื่องจะมี Speaker 3 ตัวทำให้เสียงของมันน่าจะดีอลังการงานสร้างกว่าตัวอื่นๆก็เป็นได้ ด้านหลังของเครื่องดูเหมือนว่าจะเป็นวัสดุ Glossy ทำให้มันอาจจะไม่สามารถใช้ที่ชาร์ตแบบ TouchStone ที่ Palm เคยทำออกมาได้ ตัวอุปกรณ์น่าจะถูกวางขายในช่วงมิถุนายนนี้ ส่วน Opal ที่มีหน้าจอ 7 นิ้วน่าจะมาก่อนเดือนกันยายนปีนี้ ถ้าข่าวลือเชื่อถือได้ตัว Opal เองจะมาทั้งรุ่น Wi-Fi อย่างเดียวและรุ่น 3G ที่จะวางขายกับทาง AT&T และอีกรุ่นเป็นแบบ LTE ที่จะวางขายกับ Verizon ทั้งหมดน่าจะชัดเจนในเดือนกันยายนนี้และสุดท้ายอาจจะมีรุ่น 4G สำหรับ AT&T ออกมาในช่งปี 2012
Opal เองเน้นไปที่การอ่าน E-Book และมีคุณภาพเสียงที่ดี แต่รายละเอียดอื่นยังคงเงียบ ถ้ามันมีแค่นี้จริงๆน่าเสียดายมากเหมือนมันเป็นแค่ E-book กลายๆมากกว่าที่จะเป็น Tablet
มันชัดเจนอยู่แล้วว่าถ้า HP ต้องการที่จะขายเจ้า Tablet นี่ได้ทั่วโลกต้องมาแบบเจ๋งจริงๆ และต่อกรกับพวก iPad 2 หรือ Xoom ได้แบบสูสี รอดูวันที่ 9 กุมภาพันธ์นี้อาจจะเป็นการชี้ชะตา WebOS ของปีนี้เลยก็ว่าได้

Monday, January 24, 2011

iPhone 5 for summer 'at the earliest', what to expect

There's so much focus on the iPad 2.0 right now, which we now know will likely be faster, slimmer, lighter, host cameras and boast better graphics with a better screen than the existing model, but what do we know about the iPhone 5? What features can we look forward to in the next-gen Apple smartphone when it ships in summer "at the earliest"?
Well, it seems the device may not appear in June. This will likely set the usual pundits off on a course of "but Apple always introduces new models in June" chatter, but Apple makes the rules. Pundits don't. And in any case, it may just be that Apple just can't hit that June date this time around.
Why do I think this?
[This story is from Computerworld's Apple Holic blog. Follow on Twitter or subscribe via RSS to make sure you don't miss a beat.]
The AAPL supply line gossip hounds over at Digitimes claim Apple has added Foxconn Electronics, Foxlink, Gold Circuit Electronics (GCE) and Epistar as component suppliers for the iPhone 5 smartphone  -- but also warn the iPhone 5 is "scheduled for launch during summer at the earliest" (emphasis is mine).
It is tough luck for Japan's Foster, which has lost the earphone supply contract to Foxconn because of the strengthening Yen. Foxlink will produce earphone jack sockets for the iPhone 5.
"With a shortage of HDI boards, Apple has also newly added GCE as a supplier, but will continue to source from Compeq Manufacturing and Unimicron Technology as well," the report informs, before letting us know to expect LED chips from Epistar through a tech sharing agreement with Japan's Toyoda.
Recently we learned Kinsus Interconnect Technology is to supply silicon for the iPhone 5's new Qualcomm baseband chip. This is likely to be a combined CDMA/GSM chip, meaning all those Verizon iPhone users should be able to use the next-gen Apple smartphone when traveling in 'smaller' countries, such as all those across Europe using GSM networks which aren't compatible with CDMA.

Faster, faster, pussycat phone
The iPhone 5 is also expected to run on Apple's new A5 CPU, which is built on ARM's Cortex A9 architecture. This would be a multi-core processor, significantly boosting the speed the device runs at. And you can bet a dollar that Apple may use the new dual-core SGX543 graphics core. This potentially means you can look forward to 1,080p video recording and HDMI-quality output.
In a smartphone. Cast your mind back to the cellphone you used just five years ago and you can only go "wow".
Are we going to see a repeat of last year's big leak of an early iPhone 4 prototype with the iPhone 5? Absolutely not: the device is already in use and already being tested, but only by senior folk working within the confines of the Apple campus.
We also recently learned the iPhone 5 may support a new iOS feature that's popped up within iOS 4.3 beta 2, a feature called 'Media Stream'. While this is being talked up as Apple's move into social networking, it seems to be little more than a photo gallery feature, similar to the existing facility of subscribing to other people's iPhoto collections from within iPhoto. Despite which I do hope MobileMe becomes an engaging social network eventually -- I'd value any improvement in the service.
Perhaps a bigger hint at that kind of activity is within the other code secret -- 'iGroups'. Could this suggest some interesting location-based features for iPhone 5?
iPhone 5 a wallet
I've written before about NFC support in the device. Benjamin Vigier, Apple's new Mobile Commerce Manager has huge experience in the NFC field, including stints at Starbucks and PayPal. Apple has the patents, and in iPhone 5 you will see a smartphone that is also your wallet.
Also look forward to better video and image capture CCDs, flash, and improvements in the external antenna design are all extremely likely in the next generation Apple smartphone.
I'd also anticipate some interesting connections between an iPhone 5 and a user's Mac, should they have one, with Mac OS X Lion doubtless set to offer some deeply compelling features to iPhone users, partially to stimulate Mac sales to non Mac-using iPhone owners, and partially just to show what the company can do in terms of leveraging functionality across all its platforms.
So what will iPhone 5 be?
It will be:
  • a phone,
  • a compass,
  • a map,
  • your mail, texts and social networks,
  • an Internet appliance,
  • a games machine,
  • a wallet,
  • capable of running all manner of Apps
  • your thin client Mac,
  • your video and still camera,
  • pocket calculator,
  • pedometer,
  • car keys
  • and airplane boarding pass.
Which, when you think about it, isn't such a bad achievement for a product which only landed inside an already veteran industry in 2007.
There's possibilities the iPhone 5 may support 3D games, a la Nintendo 3DS, and also that it will be made available on a third US carrier, Sprint.
I've not yet touched upon the chance Apple may introduce its own mapping and location-based service offerings. Nor (yet) have we considered just how the company intends implementing wider VoiceOver support in the next-gen of the device.
What do you think? Drop me a line via Twitter or in comments below and let me know. I'd like it if you chose to follow me on Twitter so I can let you know when these items are published here first on Computerworld.

KAKUDOS AD-900 Android Pad หน้าจอสัมผัสขนาด 10.2 นิ้ว มาใหม่ ราคาพิเศษ

KAKUDOS AD-900 Android Pad หน้าจอสัมผัสขนาด 10.2 นิ้ว

มาใหม่ ราคาพิเศษเพียง 6,200 บาท ส่งฟรี สั่งซื้อโทร.081-9433494






KAKUDOS AD-900 หน้าจอสัมผัส 10.2 นิ้ว ANDROID ROBOT 2.1

Tablet PC Android pad 2.1 CPU : ZT  ด้วยหน้าจอสัมผัสขนาด

10.2 นิ้ว มาพร้อมกับระบบปฎิบัติการ Android 2.1 ต่อ WiFi ได้ทุกที่

ตัวเครื่องรองรับ Micro SD หรือ TF card ได้ถึง 32GB.






AD-900  สุดยอดอุปกรณ์เทคโนโลยีประเภท Computer Tablet

เทียบกับ Netbook ทั่วๆ ไปได้เลย ไม่ว่าจะเล่น internet ,ดูหนัง,

youtube, ใช้ WiFi  ได้ทุกที่ทุกเวลา, เล่น games, E-mail,

Facebook, Music player, Movie player

 




รายละเอียดสินค้า:



PROCESSOR Brand: ZT

หน่วยความจำ:256MB

Processor Main Frequency: 1G MHZ

Operating System: Android 2.1

System Memory: 256MB DDR2

Memory slot: TF Card

Graphics Card Type: Dedicated Card

น้ำหนัก: 0.9 KG

หน้าจอ LCD: 10.2” TFT LCD, 1024X600

I/O PORTS: RJ45, USB2 HOST, USB2 OTG

ระบบสัมผัส: RESISTIVE

STORAGE: NAND FLASH 2GB. up to 32GB.

ขนาดสินค้า: 270mm X 180mm X 15mm

ระยะเวลาการใช้งาน: เปิดWIFI ได้ 5ชม.,  ปิดWIFI ได้ 7ชม.

ระบบWLAN: Built-in 802.11 b/g WLAN Card

ไฟล์เสียงที่รองรับ:MP3, WMA, AAC, FLAC, WAV, OGG, APE

ไฟล์ภาพที่รองรับ: BMP,JPEG,PNG,GIF

VIDEO: 1080P MP4, 1080 AVI, 1080 MKV, 1080 3GP,

1080 RMVB,RM






อุปกรณ์ในชุด:

• Android Pad : KAKUDOS AD900

• USB Cable 1 อัน

• Power Adapter 1 อัน





***ตัวเครื่อง รับประกัน 1 ปี อุปกรณ์สายชาร์จไฟและอื่นๆ

รับประกัน 6 เดือน***











 การสั่งซื้อสินค้า มี 2 วิธีคือ



 วิธีที่ 1



โอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์:

ชื่อบัญชี โกษากร ประไพพันธ์ มี 3 ธนาคารให้เลือกดังนี้

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขา สำนักพระรามที่ 3 เลขที่บัญชี : 777-1-42880-7

ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขา คาร์ฟูร์ รังสิต เลขที่บัญชี : 401-5-91210-7

ธนาคารกสิกรไทย สาขา เซียร์ รังสิต เลขที่บัญชี : 418-2-63278-9 จำนวนเงิน 6,200 บาท

แล้วแจ้ง confirm  ทาง Email  หรือทางโทรศัพท์

หลัง confirm เรียบร้อยแล้ว จะรีบดำเนินการส่งของให้

ในวันถัดไป  (ส่งไปรษณีย์ลงทะเบียน EMS)





วิธีที่ 2



แบบไปรษณีย์ EMS เก็บเงินปลายทาง (พ.ก.ง.) คิดค่าบริการเพิ่ม

200 บาท โดยแจ้งชื่อ-ที่อยู่ผู้สั่งซื้อ ได้ที่เบอร์โทร.081-9433494

และโอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ค่าจัดส่งแบบ พ.ก.ง.

จำนวน 200 บาท เข้าบัญชี ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาสำนักพระรามที่ 3

นายโกษากร ประไพพันธ์  เลขที่บัญชี : 777-1-42880-7

และรอใบแจ้งจากไปรษณีย์ และไปชำระค่าสินค้าที่เหลือ

จำนวน 6,200 บาท ในวันรับสินค้าที่ที่ทำการไปรษณีย์ 




สินค้าทุกชิ้นส่งทางไปรษณีย์ EMS หลังจากโอนเงินเรียบร้อยแล้ว

 หรือแจ้งเก็บเงินปลายทาง (พ.ก.ง.) ไม่เกิน 4 วัน ได้รับสินค้า



 ลูกค้าของเราทุก ๆ ท่าน เรายินดีสอนการใช้งานและ

 แก้ไขปัญหาต่าง ๆ ตลอดเวลาครับ

 

สนใจหรือสอบถามรายละเอียดติดต่อ: 081-9433494

     * โอนเงินเรียบร้อยโทรแจ้งที่ 081-9433494 หรือ

       แจ้ง Confirm ทาง email : AircardOK@gmail.com








Thursday, January 20, 2011

รีวิว Samsung Galaxy S: รีวิว Samsung Galaxy S

รีวิว Samsung Galaxy S: รีวิว Samsung Galaxy S: "Samsung Galaxy S เป็นหนึ่งในมือถือ Android ที่น่าจับตามองที่สุดในขณะนี้ (และวางขายจริงแล้ว) สำหรับในเมืองไทย ซัมซุงขายผ่าน AIS ในราคา 22,898..."

The iPad Now Can Take Command of Computers

It has long been possible to control one PC or Mac from another, legally and with permission. Though the process can be tricky to set up, companies often use it as a maintenance and training tool, and some consumers use it to help others solve computer problems, or to reach back to their home or office machines while on the road to access information.
Walt Mossberg looks at apps that let you control your PC or Mac from an iPad or other mobile device. You actually see the screen of your computer on the iPad, and can run programs and view files remotely.
But what about remotely controlling a PC or Mac from the newest category of digital device, a multitouch tablet? Well, it turns out there are apps for that.
Such apps have been around on super-smart phones like the iPhone for years, but phone screens are so small that using them to open and operate programs and folders on a Mac or PC is very frustrating, at least to me. The iPad, with its roomy 10-inch screen, is a different story. It actually has the real estate to make the process much more practical.
I've been testing a couple of these apps on my iPad, using them to remotely control Windows PCs and Macs at my home and office. In fact, I'm typing this paragraph in Microsoft Word on a Mac remotely from the iPad.
My conclusion is that these apps do work, but even on the large iPad screen, they're too clumsy and confusing to use on a regular basis, mostly because touch-screen tablets aren't a great match for the way traditional computers—designed for a mouse and a physical keyboard—work. Also, the apps have some functional limitations, and they are heavily dependent on the speed of the network or Internet connection, which can make them slow at demanding things like video.
A view of a Windows PC on an iPad via LogMeIn Ignition.
For my tests, I selected two apps squarely aimed at average consumers. One is called LogMeIn Ignition, and is the iPad and iPhone incarnation of a longstanding computer-to-computer remote-control product called LogMeIn. The other is called iTeleport. It has been around, under various names, since the early days of the iPhone, and now comes in an iPad edition as well.
Both apps get around the complexity of setup by installing a special free program on the computer you wish to control that talks to the iPad app. The apps can see and control all the computers on which you have installed companion programs. I found setup easy and the connections generally reliable and fast enough, except for video.

Mossberg's Mailbox

Walt Mossberg answers readers' questions on Internet access in hotel rooms, getting more hard-drive space and what to do with duplicate digital photos.
But the big drawback to these products is that they are clumsy in controlling the target computer. Each allows two basic methods for this. In one, your finger moves the computer's mouse cursor and you click the virtual mouse by tapping. In the other, you can directly tap on things on the remote screen. In my view, LogMeIn was better at the first method and iTeleport was better at the second. But I found both clumsy and tedious in both programs, especially when I tried to combine controlling the remote computer with the frequent need to use touch to move the image of the screen around the iPad's display.
LogMeIn Ignition costs a one-time fee of $29.99. The iTeleport app can be used free for 30 days, after which it costs either $2.99 a month or a $24.99 one-time fee. For the next seven days, iTeleport is running a sale that cuts the price to $1 a month, or $10 for the one-time fee.
Both apps can control multiple Windows or Mac computers, at no extra cost. For my tests, I used each to remotely access the same two Windows PCs and two Macs, both desktops and laptops. One limitation: neither app allows you to transfer a file from a computer to the iPad.
While there are some differences between the products, they are fundamentally similar. Once you log in, you see the remote computer's screen on your iPad screen. In my tests, with both products, I was able to open Web pages, check email, view photos and use productivity apps. I also was able to print documents from the computers on my home printer, even while I was miles away.
In both apps, you pinch and zoom to enlarge or reduce the view of the target computer screen, and can rotate the image of the screen.
The iPad can't play Flash videos, but these apps allow you to view such videos from your PC or Mac on the iPad. But there are catches. For one thing, neither program lets you hear audio from the computer through the iPad, so the videos (and music you play remotely) are mute. Also, in my tests, even over a fast connection, I could never get a video from the remote computer to play smoothly over either app.
LogMeIn also offers a version for Android, unlike iTeleport, and that allows audio to be transmitted. I tested this on a Samsung Galaxy Tab, and it worked.
One big difference is in the level of security or privacy the two apps offer. Both encrypt the remote connection, but LogMeIn requires you to sign in twice: once to its own service and once to the computer itself. iTeleport skips the computer login, so it feels less secure. In addition, iTeleport outsources its authentication to Google. You sign into the product using your Google credentials. This is simpler, but requires you to trust Google with the privacy of the contents of your computer.
Each program has special keyboards and shortcuts to add things to the iPad that computers use but the tablet lacks, such as function keys. Each also has various gestures you can use as shortcuts. But the overall effect is confusing.
Bottom line: You can control a PC or a Mac from an iPad, without any complex setup, using these two apps. But, unless you spend a lot of time learning to get good at it, the process is clunky and best used only when you absolutely must.
— Find all Walt Mossberg's columns and videos at the All Things Digital website, walt.allthingsd.com.

Tuesday, January 18, 2011

The Future of Your PC's Hardware Memristor: A Groundbreaking New Circuit

What is it? As its name implies, the memristor can "remember" how much current has passed through it. And by alternating the amount of current that passes through it, a memristor can also become a one-element circuit component with unique properties. Most notably, it can save its electronic state even when the current is turned off, making it a great candidate to replace today's flash memory.
Memristors will theoretically be cheaper and far faster than flash memory, and allow far greater memory densities. They could also replace RAM chips as we know them, so that, after you turn off your computer, it will remember exactly what it was doing when you turn it back on, and return to work instantly. This lowering of cost and consolidating of components may lead to affordable, solid-state computers that fit in your pocket and run many times faster than today's PCs.
Someday the memristor could spawn a whole new type of computer, thanks to its ability to remember a range of electrical states rather than the simplistic "on" and "off" states that today's digital processors recognize. By working with a dynamic range of data states in an analog mode, memristor-based computers could be capable of far more complex tasks than just shuttling ones and zeroes around.
When is it coming? Researchers say that no real barrier prevents implementing the memristor in circuitry immediately. But it's up to the business side to push products through to commercial reality. Memristors made to replace flash memory (at a lower cost and lower power consumption) will likely appear first; HP's goal is to offer them by 2012. Beyond that, memristors will likely replace both DRAM and hard disks in the 2014-to-2016 time frame. As for memristor-based analog computers, that step may take 20-plus years.

32-Core CPUs From Intel and AMD


What is it? With the gigahertz race largely abandoned, both AMD and Intel are trying to pack more cores onto a die in order to continue to improve processing power and aid with multitasking operations. Miniaturizing chips further will be key to fitting these cores and other components into a limited space. Intel will roll out 32-nanometer processors (down from today's 45nm chips) in 2009.
When is it coming? Intel has been very good about sticking to its road map. A six-core CPU based on the Itanium design should be out imminently, when Intel then shifts focus to a brand-new architecture called Nehalem, to be marketed as Core i7. Core i7 will feature up to eight cores, with eight-core systems available in 2009 or 2010. (And an eight-core AMD project called Montreal is reportedly on tap for 2009.)
After that, the timeline gets fuzzy. Intel reportedly canceled a 32-core project called Keifer, slated for 2010, possibly because of its complexity (the company won't confirm this, though). That many cores requires a new way of dealing with memory; apparently you can't have 32 brains pulling out of one central pool of RAM. But we still expect cores to proliferate when the kinks are ironed out: 16 cores by 2011 or 2012 is plausible (when transistors are predicted to drop again in size to 22nm), with 32 cores by 2013 or 2014 easily within reach. Intel says "hundreds" of cores may come even farther down the line.